เป็นยาแก้โรคอายุวัฒนะ ช่วยให้มีความสนุกสนาน
จากผลการเรียนที่ถูกตีพิมพ์ในวารสาร เมื่อปี 2008 พบว่า ขันอาสาสมัครที่ดื่มน้ำโกจิเบอร์รีเหมือนเคย นาน 15 วัน มีแนวโน้มสุขภาพอนามัยมีชีวิตชีวาขึ้น ขยายความให้ชัดคือรู้มีชีวิตชีวา มีกำลังแรงงานยิ่งกว่าที่เคยเป็น นอนได้ก้าวล่วง พร้อมทั้งมีสุขเพิ่มพูนเพื่อ
ซึ่งเมื่อลองดูดื่มน้ำโกจิเบอร์รีต่อไปเรื่อย ๆ ก็พบว่า กลุ่มขันอาสามีความเคร่งเครียดเบาบาง ความอ่อนเพลียเหนื่อยเบาบางลง ระบบแบ่งกระยาหารดีขึ้น ด้วยกันมีความเอนเอียงความสนุกสนานสูงขึ้นเรื่อยๆ ๆ เมื่อเปรียบเทียบกลุ่มประลองที่ไม่ได้ดื่มน้ำโกจิเบอร์รีปกติ
ป้องกันผิวจากรังสียูวี
ผลการลองดูกับหนูที่ถูกตีพิมพ์ในวารสาร ปี 2010 พบว่า หนูที่กินน้ำโกจิเบอร์รีจะมีความเอนเอียงยับยั้งรังสียูวีและการอักเสบที่เกิดจาก รังสียูวีแผดเผาได้มากกว่าหนูที่ไม่ได้กินน้ำโกจิเบอร์รี
เช่นนี้นักค้นคว้าได้อ้างผลการเรียนไว้ว่า อาจเป็นเนื่องด้วยสารทัดทานอนุมูลอิสระในผลโกจิเบอร์รี ที่มีส่วนช่วยอภิบาลพร้อมด้วยปกป้องรักษาผิวจากรังสียูวีได้อย่างมีความสามารถ
ทะนุบำรุงสายตา
โกจิเบอร์รีมีสารทัวรีน (Taurine) ซึ่งผลการศึกษาจาก เมื่อปี 2011 พบว่า สารทัวรีนมีสรรพคุณอุดหนุนสายตาให้กระจ่าง เป็นพิเศษสายตาของผู้อาวุโสพร้อมกับผู้ที่มีปัญหาสายตาอันสืบเพราะเบาหวาน
ทัดทานเซลล์มะเร็ง
เพื่อความที่โกจิเบอร์รีมีสารขัดขวางอนุมูลอิสระสูงมาก จึงสามารถคุ้มครองเซลล์ร่างกายจากการถูกทำลายด้วยเซลล์มะเร็งได้ นอกจากนี้สารขัดขวางอนุมูลอิสระของโกจิเบอร์รียังช่วยซ่อมแซมเซลล์ที่เกิดการอักเสบ ดูแลเซลล์จากความเสียหายต่าง ๆ กับคุ้มกันการเกิดโรคมะเร็งได้อีกด้วยนะคะ