ท่อพีอีกับท่อพีบี ต่างกันยังงัยน๊า

ท่อพีอี คือ ท่อที่นำมาใช้กับอะไร หากคนที่ไม่ได้อยู่ในวงการรับเหมา หรือวงการน้ำประปา อาจจะงง ทั้งที่อาจจะเคยผ่านหูผ่านตากันมาบ้าง อย่างเช่น เวลาสร้างบ้าน หรือซ่อมแซมท่อประปาภายในบ้าน ช่างก็มักจะพูดถึงท่อ HDPE ให้ได้ฟังกันอยู่บ้าง แต่จริงๆ แล้ว ท่อ HDPEไม่ค่อยได้ใช้กับงานเดินท่อประปาภายในบ้าน ส่วนใหญ่จะใช้ในอุตสาหกรรมมากกว่า

ท่อ HDPE หรือที่เราอาจจะรู้จักในอีกชื่อหนึ่งคือ ท่อ PE เป็นท่อที่มีลักษณะดัดโค้ง งอ ได้ เรียกได้ว่า ทำให้คดเคี้ยวไปมาตามลักษณะของตัวอาคาร นั่นเอง  นอกจากนี้ ท่อ HDPE หรือ ท่อพีอี ยังมีคุณสมบัติที่เด่นชัดอีกหลายประการด้วยกันคือ มีอายุการใช้งานยาวนานถึง 50ปี ผลิตจากวัสดุชั้นดี ทำให้ไม่เปราะ หรือแตกหักง่าย อีกทั้งยังผสมสารป้องกัน UV ทำให้ทนต่อการแผดเผาของแดด สมกับเป็นอุปกรณ์ที่คู่ควรกับเมืองไทยจริงๆ นอกจากนี้ ท่อ พีอี ยังมีน้ำหนักเบา สามารถดัดให้โค้งงอได้ตามรูปทรง โดยไม่ต้องใช้กาวต่อท่อ ซึ่งมักจะเสื่อมสภาพ และทำให้น้ำรั่วซึมได้  นอกจากที่กล่าวมาแล้ว ท่อ HDPE ยังมีคุณสมบัติที่โดดเด่นอีกประการหนึ่งคือ ใช้เป็นท่อน้ำดื่มได้อย่างปลอดภัย เพราะปราศจากสารก่อมะเร็ง สนิม หรือโลหะหนักต่างๆ ซึ่งเป็นตัวสะสมทำให้เกิดโรคร้ายได้ แต่ท่อ HDPE ก็มีข้อจำกัด ตรงที่มีราคาสูงกว่าท่อพีวีซี อีกทั้งยังเสื่อมสภาพได้เร็วกว่าอายุการใช้งาน ถ้าหากว่าได้รับแสงอุลตร้าไวโอเล็ตที่มากับแดดเป็นเวลานาน เรียกว่า ถ้าตากแดดตากลมอยู่ตลอดก็ทำให้อายุการใช้งานสั้นลงได้

ท่อพีอี และ ท่อพีบี ต่างกันอย่างไร

“ท่อพีอี คือ ท่อน้ำสีดำๆที่โค้งไปงอมาได้ ใช้แทนท่อน้ำเหล็กหรือท่อ PVC มีความยืดหยุ่นสูง ราคาก็ไม่แพงมาก (ประมาณเท่ากับท่อ PVC) แต่ค่อนข้างยุ่ง”

ท่อพีบี คือ ท่อน้ำสีดำๆที่โค้งไปงอมาได้ ใช้แทนท่อน้ำเหล็กหรือท่อ PVC มีความยืดหยุ่นสูง ราคาก็ไม่แพงมาก (ประมาณเท่ากับท่อ PVC) แต่ค่อนข้างยุ่ง ยากตอนที่จะต่อกัน เพราะต้องใช้ความร้อนในการเชื่อม และเมื่อเชื่อมแล้วจะมี ตะเข็บบ่าในท่อ หากของเหลวที่ไหลอยู่ในท่อมีตะกรัน ก็จะทำให้ตะกรันเหล่านั้น เกาะติดและวันหนึ่งก็อาจจะอุดตันได้ แต่ข้อดีก็คือ มีความทนทานและโค้งงอได้ ง่าย โดยไม่ต้องมีข้อต่อข้องออย่างท่อเหล็กหรือท่อ PVC

ท่อพีอี คือ ท่อที่มีคุณสมบัติเหมือนกับท่อ P.E. แต่สามารถทนความร้อน ได้ดีกว่า ใช้เป็นท่อน้ำร้อนของเราได้ แต่ราคาจะแพงกว่าท่อ P.E. เหมือนกัน (ประมาณ ๑.๕ – ๒ เท่า) ซึ่งท่อทั้งสองอย่างนี้ (P.E. และ P.B.) ไม่น่าใช้ฝังในผนัง เพราะท่อแบบนี้มีโอกาส “ดิ้น” ได้ ยากต่อการติดตั้ง และอาจจะทำให้ปูนฉาบร้าว หรือกระเบื้องหลุดกระเดิดได้
ท่อพีอี = Poly Ethelene (อาจสะกดผิดนิดหน่อย) เป็นสารพวกเปร์โตรเคมี สีดำๆ ราคาประมาณเท่ากับท่อ พีวีซี ถูกกว่าท่อเหล็กชุบสังกะสีนิดหน่อย เวลาจะต่อกัน ต้องใช้การ “เชื่อม” เท่านั้น (และตรงนี้คือจุดอ่อนของท่อชนิดนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความชำนาญ เรื่องการซ่อมแซม และเรื่องตะเข็บที่อยู่ภายในท่อ ที่อาจทำให้เป็นบ่า-สำหรับเกาะของตะกรันได้) แต่หากเป็นการต่อกับท่อชนิดอื่น จะมีข้อต่อพิเศษขาย จุดดีก็คือ ทนทานกว่าพีวีซี และโค้งงอได้สบายอารมณ์
ท่อพีบี = Poly Butylene ฐานทางเคมีฟิสิกส์คล้ายกับท่อพีอี แต่จะมีความสามารถทนความร้อนได้มากกว่า (จึงใช้สำหรับเป็นท่อน้ำร้อน) ราคาจะแพงกว่าท่อพีอี ประมาณ ๑.๕ – ๒ เท่า